ARTICLE อะโทมี่ได้รับรางวัลธุรกิจที่น่าทำงานที่สุุดในเอเชียเป็นอันดับที่ 2
อะโทมี่ได้รับรางวัลธุรกิจที่น่าทำงานที่สุุดในเอเชียเป็นอันดับที่ 2
ส่งต่อข่าวสารมากมาย ได้แก่ การมอบรางวัล TOP6 กิจกรรมสลิม บอดี้ ชาเลนจ์, การเปิดสาขาอะโทมี่ มองโกเลียในวันที่ 22 กันยายน เป็นต้น
เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา งานซัคเซส อะดาเดมี่ ถูกจัดขึ้นที่ โอ๊ค วัลเลย์ เมืองวอนจู, บีเพ็กซ์ เมืองปูซาน, อะโทมี่ โอรทและอะโทมี่ ปาร์ค
เมืองคงจู รวมทั้งการถ่ายทอดสดออกไปอีก 4 เมืองทั่วประเทศเกาหลี ในงานมีสมาชิกเข้าร่วมทั้งหมดมากกว่า 30,000 คน และยังมีบริการ
แปลภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ จีน สเปน และภาษาอื่นๆ รวม 8 ภาษาด้วยกัน นอกจากนี้ สมาชิกทั้ง 21 สาขาทั่วโลกยังสามารถเข้าร่วมงาน
ผ่านทางออนไลน์แบบเรียลไทม์ได้ และยังมีบริการแปลภาษาทางระบบออนไลน์เช่นกัน โดยในงานครั้งนี้ อะโทมี่ได้ส่งต่อข่าวสารมากมาย อาทิ
การได้รับรางวัลธุรกิจที่น่าทำงานที่สุดในเอเชียเป็นอันดับที่ 2, การมอบรางวัล TOP 6 กิจกรรมสลิมบอดี้ ชาเลนจ์ ปี 2022, การเปิดสาขาอะโทมี่
มองโกเลียในวันที่ 22 กันยายน และข่าวสารอื่นๆ อีกมากมาย
จากปีที่แล้วต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้ อะโทมี่ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 ธุรกิจที่น่าทำงานที่สุดในประเทศเกาหลี และได้รับรางวัลเป็นอันดับที่ 2
ของธุรกิจที่น่าทำงานที่สุดในเอเชีย ในสาขาธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง ซึ่งธุรกิจที่น่าทำงานในที่นี้ หมายถึง ธุรกิจที่พนักงานมีความเชื่อถือ
ในหัวหน้างานและผู้บริหาร, มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากในหน้าที่งานและองค์กร, มีความรักระหว่างเพื่อนร่วมงานและพนักงานทุกคนใน
องค์กรตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ด้วยความมุ่งมั่น ด้วยใจรัก โดยขั้นตอนในการคัดเลือกนั้นใช้เกณฑ์เดียวกันทั่วโลก ซึ่งพิจารณจากดัชนีความเชื่อถือ
ของพนักงาน (Trust Index) และวัฒนธรรมองค์กร (Culture Audit) โดยอะโทมี่มีดัชนีความเชื่อถือทั้งหมด 83 คะแนน และได้รับคะแนนเต็ม
ในหมวดวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งประธานของ GPTW คุณชี กึนบัง ได้กล่าวว่า “รางวัลธุรกิจที่น่าทำงานนี้ถูกเลือกจากผลสำรวจความคิดเห็นของ
พนักงาน” และยังกล่าวอีกว่า "การได้รับคะแนนเต็มในหมวดวัฒนธรรมองค์กร และได้รับ 83 คะแนนในดัชนีความเชื่อถือนั้น ถือเป็นคะแนน
ที่สูงมากและยังสูงเป็นอันดับที่ 2 ของเอเชีย”
ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เราได้ดำเนินการมอบรางวัล TOP6 กิจกรรมสลิมบอดี้ ชาเลนจ์ ซึ่งเป็นโปรเจกต์เริ่มต้นทุกวันคือวันใหม่
ประจำปี 2022 ในการสร้างพฤติกรรมเพื่อสุขภาพเป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ ซึ่งในวันนั้นเราได้มอบเงินจำนวน 30,000 บาท (1 ล้านวอน)
และโอกาสในการถ่ายรูปโปรไฟล์ให้กับผู้ชนะชาเลนจ์ TOP6 ซึ่ง 1 ในผู้ชนะ TOP6 ในโปรเจกต์คนี้ ลดน้ำหนักไปได้ถึง 8 กิโลกรัม
เธอได้กล่าวแสดงความรู้สึกว่า “เธอมีอาชีพหลักเป็นครูสอนโยคะ ซึ่งในช่วงวิกฤตโคโรน่า งานสอนก็ลดลง เลยทำให้น้ำหนักเพิ่ม
และล่าสุด เมื่อได้เริ่มคลาสสอนอีกครั้ง เธอก็รู้สึกอายนักเรียนกับหุ่นที่อ้วนขึ้น เลยตัดสินใจเข้าร่วมในโปรเจกต์นี้" และยังบอกอีกว่า
"นักเรียนต่างก็ชอบกัน และทำให้ตัวเองสามารถสอนได้อย่างมั่นใจขึ้นอีกด้วย”
และต่อเนื่องกับการบรรยายในหัวข้อออโต้เซลล์ มาสเตอร์ ที่โรยัล มาสเตอร์ชัง เยรันได้ย้ำว่า ผู้หญิงที่ทำอะโทมี่นั้น จะต้องเป็นผู้หญิงที่
ตัดสินใจด้วยตัวเอง ช่วงแรกที่ทำธุรกิจ ตอนที่แนะนำตัวกับพ่อแม่ของแฟนว่าเธอกำลังทำธุรกิจขายตรงอยู่ ว่าที่แม่สามีและว่าที่สามีต่างก็
แสดงอาการไม่ชอบใจ แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกเสียกำลังใจ และทำธุรกิจอะโทมี่อย่างต่อเนื่องตลอด 10 ปี จนตอนนี้สามีได้เรียกเธอว่า ราชินี
ไปแล้ว และเธอก็ได้ทิ้งท้ายไว้ว่า "อย่าไปหวั่นไหวกับสายตาคนรอบข้าง ขอแค่ตั้งเป้าหมายด้วยตัวเอง แล้วจงเดินตามทางนั้นอย่างมั่นคง"
ในพิธีมอบตำแหน่งมาสเตอร์ชิพ โปรโมชั่นนั้น มีนิวเซลล์ มาสเตอร์ จำนวน 1,853 ท่าน, ไดมอนด์ มาสเตอร์ 448 ท่าน, ชารอนโรส มาสเตอร์
102 ท่าน, สตาร์ มาสเตอร์ 22 ท่าน, โรยัล มาสเตอร์ 1 ท่านและคราวน์ มาสเตอร์ 1 ท่านด้วยกัน
ซึ่งในวันนี้ นิวโรยัล มาสเตอร์ อิม อินยอง ก่อนท่านจะได้พบกับอะโทมี่ ท่านได้ทำกิจกรรมเป็น FC ของบริษัทประกันเป็นเวลา 17 ปี ได้เงินเดือน
เดือนละ 150,000 บาท (5 ล้านวอน) เดือนไหนมากหน่อยก็ได้ถึง 300,000 บาท (10 ล้านวอน) แต่ที่ผ่านมาได้เอาเงินไปใช้หนี้และดอกเบี้ย
เงินต้นจนแทบไม่เหลือเงินในบัญชีและการรักษาค่าคอมมิชชั่นในจำนวนสูงๆ ก็ลำบาก ท่านเลยมาเริ่มทำธุรกิจอะโทมี่ หลังจากท่านได้รับ
การแนะนำเกี่ยวกับธุรกิอะโทมี่ ท่านทำอะโทมี่เป็นเพียงอาชีพเสริมเป็นเวลา 3 ปี แล้ววันหนึ่งท่านก็ได้ยินว่า สปอนเซอร์ข้างบนของท่านมีรายได้
เดือนละ 450,000 บาท (15 ล้านวอน) เป็นรายได้จากระบบ ท่านก็เลยเปลี่ยนมาทำเป็นอาชีพหลัก แล้วเริ่มทำอะโทมี่เต็มตัว ก่อนหน้านี้
แม้จะอยากเติมช่องไลฟ์ซินาริโอ้ให้เต็มแค่ไหน ก็ทำไม่ได้ แต่หลังจากเริ่มทำอะโทมี่ ท่านก็ได้เข้าใจแนวคิดของชีวิตที่สมดุลและเกิดอิสระ
ขึ้นในจิตใจ จนสามารถเติมช่องของไลฟ์ซินาริโอ้ได้จนเต็ม และผลตอบแทนจากความพยายามเพื่อทำให้ฝันเป็นจริง จึงทำให้ท่านมีวันนี้ได้
ส่วนนิวคราวน์ มาสเตอร์ อิม จีวอนนั้น สามีเสียชีวิตในขณะที่ท่านไม่ได้เตรียมการณ์ล่วงหน้าสำหรับช่วงอายุ 40 จึงทำให้ชีวิตลำบาก
ตอนที่ได้รับการแนะนำธุรกิจอะโทมี่ ท่านก็ปฏิเสธมาตลอด 2 ปีเพราะเป็นธุรกิจขายตรง ระหว่างนั้น ท่านก็ได้รับการแนะนำสินค้าอะโทมี่จาก
คนรู้จักจึงทำให้เปิดใจในที่สุด ท่านบอกว่า อะโทมี่ทำให้ตัวท่านจากคนที่โตมาลำบากจนกลายเป็นคนรวยและเป็นแม่ที่มั่นคงให้กับลูกได้
หลังจากท่านทำธุรกิจอะโทมี่ ความฝันของท่าน คือ การเป็นคนที่หารายได้ได้ 3 ล้านบาท (100 ล้านวอน) ต่อปี และเพื่อความฝันที่ปรารถนา
อย่างแรงกล้านั้น ท่านยอมกัดฟันมางานสัมมนาในวันที่ลูกชายเข้ากรมทหาร ผลจากความพยายามทำงานหามรุ่งหามค่ำเพราะรู้สึกผิดกับลูกชาย
ทำให้ช่วงที่ลูกชายใกล้จะออกจากกรมทหาร ท่านสามารถทำฝันของท่านสำเร็จ และตอนนี้ก็กำลังจะได้เข้าเป็นสมาชิกคราวน์คลับที่มีรายได้
12 ล้านบาท (400 ล้านวอน) ต่อปี ท่านกล่าวว่า “ลูกชายเองก็เห็นวิสัยทัศน์ของอะโทมี่ จนตอนนี้ลูกชายได้เข้าเป็นสมาชิกลีดเดอร์คลับที่มีรายได้
3 ล้านบาท (100 ล้านวอน) ต่อปีแล้วค่ะ” และกล่าวความรู้สึกทิ้งท้ายไว้ว่า “ขอให้ทุกคนเป็นตัวเอกของละครแห่งความสำเร็จนี้ด้วยอะโทมี่
กันนะคะ”
ปิดท้ายด้วยการบรรยายอะโทมี่ วิชั่นของท่านประธานปาร์ค ฮันกิลน ท่านได้แสดงความยินดีกับสมาชิกที่ได้ขึ้นตำแหน่ง โดยกล่าวว่า "ไม่มี
ธุรกิจไหนที่สามารถเริ่มทำธุรกิจได้ทั้งๆ ที่ไม่มีประสบการณ์ เงินทุน หรือทักษะแบบธุรกิจอะโทมี่อีกแล้ว” อะโทมี่นั้นมีระบบเตรียมให้พร้อมแล้ว
ถ้าหากคุณไม่สำเร็จกับอะโทมี่ ก็แปลว่า คุณไม่ได้ทำธุรกิจเต็มที่พอที่จะสำเร็จ ท่านได้กล่าวอีกว่า "เหตุผลที่ไม่สำเร็จในอะโทมี่นั้น ลองถามตัวเอง
ว่าเป็นเพราะเราไม่ได้ตั้งใจทำงานเท่ากับตอนเป็นพนักงานที่ทำงานวันละ 8 ชั่วโมงขึ้นไปรึเปล่า?" และยังกล่าวอีกว่า "การตั้งเป้าหมายและ
การเขียนไลฟ์ซินาริโอ้อย่างสม่ำสเมอนั้น จะเป็นการทิ้งรูปแบบความล้มเหลวที่มีและเป็นเคล็ดลับและทางลัดสู่ความสำเร็จ" โดยท่านได้กล่าวย้ำ
เป็นพิเศษว่า “มันไม่ใช่การเขียนเป้าหมายที่ดีพอ แต่จำเป็นจะต้องเขียนสุดยอดของเป้าหมายที่ทำให้เราใจเต้นและสามารถเดิมพันกับชีวิตได้”
และสุดท้าย ท่านก็ได้แสดงความยินดีกับการเปิดสาขาอะโทมี่ มองโกเลียในวันที่ 22 กันยายน พร้อมให้ขวัญกำลังใจกับสมาชิกว่า “อะโทมี่นั้น
กำลังผลักดันธุรกิจในบราซิล ยุโรป และที่อื่นๆ อยู่ ต่อไปโอกาสและความเป็นไปได้ในอะโทมี่จะไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ
ขอให้คิดว่า อะโทมี่จะเป็นความหวังของยุคนี้และลองท้าทายไปกับมัน”
เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา งานซัคเซส อะดาเดมี่ ถูกจัดขึ้นที่ โอ๊ค วัลเลย์ เมืองวอนจู, บีเพ็กซ์ เมืองปูซาน, อะโทมี่ โอรทและอะโทมี่ ปาร์ค
เมืองคงจู รวมทั้งการถ่ายทอดสดออกไปอีก 4 เมืองทั่วประเทศเกาหลี ในงานมีสมาชิกเข้าร่วมทั้งหมดมากกว่า 30,000 คน และยังมีบริการ
แปลภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ จีน สเปน และภาษาอื่นๆ รวม 8 ภาษาด้วยกัน นอกจากนี้ สมาชิกทั้ง 21 สาขาทั่วโลกยังสามารถเข้าร่วมงาน
ผ่านทางออนไลน์แบบเรียลไทม์ได้ และยังมีบริการแปลภาษาทางระบบออนไลน์เช่นกัน โดยในงานครั้งนี้ อะโทมี่ได้ส่งต่อข่าวสารมากมาย อาทิ
การได้รับรางวัลธุรกิจที่น่าทำงานที่สุดในเอเชียเป็นอันดับที่ 2, การมอบรางวัล TOP 6 กิจกรรมสลิมบอดี้ ชาเลนจ์ ปี 2022, การเปิดสาขาอะโทมี่
มองโกเลียในวันที่ 22 กันยายน และข่าวสารอื่นๆ อีกมากมาย
จากปีที่แล้วต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้ อะโทมี่ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 ธุรกิจที่น่าทำงานที่สุดในประเทศเกาหลี และได้รับรางวัลเป็นอันดับที่ 2
ของธุรกิจที่น่าทำงานที่สุดในเอเชีย ในสาขาธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง ซึ่งธุรกิจที่น่าทำงานในที่นี้ หมายถึง ธุรกิจที่พนักงานมีความเชื่อถือ
ในหัวหน้างานและผู้บริหาร, มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากในหน้าที่งานและองค์กร, มีความรักระหว่างเพื่อนร่วมงานและพนักงานทุกคนใน
องค์กรตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ด้วยความมุ่งมั่น ด้วยใจรัก โดยขั้นตอนในการคัดเลือกนั้นใช้เกณฑ์เดียวกันทั่วโลก ซึ่งพิจารณจากดัชนีความเชื่อถือ
ของพนักงาน (Trust Index) และวัฒนธรรมองค์กร (Culture Audit) โดยอะโทมี่มีดัชนีความเชื่อถือทั้งหมด 83 คะแนน และได้รับคะแนนเต็ม
ในหมวดวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งประธานของ GPTW คุณชี กึนบัง ได้กล่าวว่า “รางวัลธุรกิจที่น่าทำงานนี้ถูกเลือกจากผลสำรวจความคิดเห็นของ
พนักงาน” และยังกล่าวอีกว่า "การได้รับคะแนนเต็มในหมวดวัฒนธรรมองค์กร และได้รับ 83 คะแนนในดัชนีความเชื่อถือนั้น ถือเป็นคะแนน
ที่สูงมากและยังสูงเป็นอันดับที่ 2 ของเอเชีย”
ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เราได้ดำเนินการมอบรางวัล TOP6 กิจกรรมสลิมบอดี้ ชาเลนจ์ ซึ่งเป็นโปรเจกต์เริ่มต้นทุกวันคือวันใหม่
ประจำปี 2022 ในการสร้างพฤติกรรมเพื่อสุขภาพเป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ ซึ่งในวันนั้นเราได้มอบเงินจำนวน 30,000 บาท (1 ล้านวอน)
และโอกาสในการถ่ายรูปโปรไฟล์ให้กับผู้ชนะชาเลนจ์ TOP6 ซึ่ง 1 ในผู้ชนะ TOP6 ในโปรเจกต์คนี้ ลดน้ำหนักไปได้ถึง 8 กิโลกรัม
เธอได้กล่าวแสดงความรู้สึกว่า “เธอมีอาชีพหลักเป็นครูสอนโยคะ ซึ่งในช่วงวิกฤตโคโรน่า งานสอนก็ลดลง เลยทำให้น้ำหนักเพิ่ม
และล่าสุด เมื่อได้เริ่มคลาสสอนอีกครั้ง เธอก็รู้สึกอายนักเรียนกับหุ่นที่อ้วนขึ้น เลยตัดสินใจเข้าร่วมในโปรเจกต์นี้" และยังบอกอีกว่า
"นักเรียนต่างก็ชอบกัน และทำให้ตัวเองสามารถสอนได้อย่างมั่นใจขึ้นอีกด้วย”
และต่อเนื่องกับการบรรยายในหัวข้อออโต้เซลล์ มาสเตอร์ ที่โรยัล มาสเตอร์ชัง เยรันได้ย้ำว่า ผู้หญิงที่ทำอะโทมี่นั้น จะต้องเป็นผู้หญิงที่
ตัดสินใจด้วยตัวเอง ช่วงแรกที่ทำธุรกิจ ตอนที่แนะนำตัวกับพ่อแม่ของแฟนว่าเธอกำลังทำธุรกิจขายตรงอยู่ ว่าที่แม่สามีและว่าที่สามีต่างก็
แสดงอาการไม่ชอบใจ แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกเสียกำลังใจ และทำธุรกิจอะโทมี่อย่างต่อเนื่องตลอด 10 ปี จนตอนนี้สามีได้เรียกเธอว่า ราชินี
ไปแล้ว และเธอก็ได้ทิ้งท้ายไว้ว่า "อย่าไปหวั่นไหวกับสายตาคนรอบข้าง ขอแค่ตั้งเป้าหมายด้วยตัวเอง แล้วจงเดินตามทางนั้นอย่างมั่นคง"
ในพิธีมอบตำแหน่งมาสเตอร์ชิพ โปรโมชั่นนั้น มีนิวเซลล์ มาสเตอร์ จำนวน 1,853 ท่าน, ไดมอนด์ มาสเตอร์ 448 ท่าน, ชารอนโรส มาสเตอร์
102 ท่าน, สตาร์ มาสเตอร์ 22 ท่าน, โรยัล มาสเตอร์ 1 ท่านและคราวน์ มาสเตอร์ 1 ท่านด้วยกัน
ซึ่งในวันนี้ นิวโรยัล มาสเตอร์ อิม อินยอง ก่อนท่านจะได้พบกับอะโทมี่ ท่านได้ทำกิจกรรมเป็น FC ของบริษัทประกันเป็นเวลา 17 ปี ได้เงินเดือน
เดือนละ 150,000 บาท (5 ล้านวอน) เดือนไหนมากหน่อยก็ได้ถึง 300,000 บาท (10 ล้านวอน) แต่ที่ผ่านมาได้เอาเงินไปใช้หนี้และดอกเบี้ย
เงินต้นจนแทบไม่เหลือเงินในบัญชีและการรักษาค่าคอมมิชชั่นในจำนวนสูงๆ ก็ลำบาก ท่านเลยมาเริ่มทำธุรกิจอะโทมี่ หลังจากท่านได้รับ
การแนะนำเกี่ยวกับธุรกิอะโทมี่ ท่านทำอะโทมี่เป็นเพียงอาชีพเสริมเป็นเวลา 3 ปี แล้ววันหนึ่งท่านก็ได้ยินว่า สปอนเซอร์ข้างบนของท่านมีรายได้
เดือนละ 450,000 บาท (15 ล้านวอน) เป็นรายได้จากระบบ ท่านก็เลยเปลี่ยนมาทำเป็นอาชีพหลัก แล้วเริ่มทำอะโทมี่เต็มตัว ก่อนหน้านี้
แม้จะอยากเติมช่องไลฟ์ซินาริโอ้ให้เต็มแค่ไหน ก็ทำไม่ได้ แต่หลังจากเริ่มทำอะโทมี่ ท่านก็ได้เข้าใจแนวคิดของชีวิตที่สมดุลและเกิดอิสระ
ขึ้นในจิตใจ จนสามารถเติมช่องของไลฟ์ซินาริโอ้ได้จนเต็ม และผลตอบแทนจากความพยายามเพื่อทำให้ฝันเป็นจริง จึงทำให้ท่านมีวันนี้ได้
ส่วนนิวคราวน์ มาสเตอร์ อิม จีวอนนั้น สามีเสียชีวิตในขณะที่ท่านไม่ได้เตรียมการณ์ล่วงหน้าสำหรับช่วงอายุ 40 จึงทำให้ชีวิตลำบาก
ตอนที่ได้รับการแนะนำธุรกิจอะโทมี่ ท่านก็ปฏิเสธมาตลอด 2 ปีเพราะเป็นธุรกิจขายตรง ระหว่างนั้น ท่านก็ได้รับการแนะนำสินค้าอะโทมี่จาก
คนรู้จักจึงทำให้เปิดใจในที่สุด ท่านบอกว่า อะโทมี่ทำให้ตัวท่านจากคนที่โตมาลำบากจนกลายเป็นคนรวยและเป็นแม่ที่มั่นคงให้กับลูกได้
หลังจากท่านทำธุรกิจอะโทมี่ ความฝันของท่าน คือ การเป็นคนที่หารายได้ได้ 3 ล้านบาท (100 ล้านวอน) ต่อปี และเพื่อความฝันที่ปรารถนา
อย่างแรงกล้านั้น ท่านยอมกัดฟันมางานสัมมนาในวันที่ลูกชายเข้ากรมทหาร ผลจากความพยายามทำงานหามรุ่งหามค่ำเพราะรู้สึกผิดกับลูกชาย
ทำให้ช่วงที่ลูกชายใกล้จะออกจากกรมทหาร ท่านสามารถทำฝันของท่านสำเร็จ และตอนนี้ก็กำลังจะได้เข้าเป็นสมาชิกคราวน์คลับที่มีรายได้
12 ล้านบาท (400 ล้านวอน) ต่อปี ท่านกล่าวว่า “ลูกชายเองก็เห็นวิสัยทัศน์ของอะโทมี่ จนตอนนี้ลูกชายได้เข้าเป็นสมาชิกลีดเดอร์คลับที่มีรายได้
3 ล้านบาท (100 ล้านวอน) ต่อปีแล้วค่ะ” และกล่าวความรู้สึกทิ้งท้ายไว้ว่า “ขอให้ทุกคนเป็นตัวเอกของละครแห่งความสำเร็จนี้ด้วยอะโทมี่
กันนะคะ”
ปิดท้ายด้วยการบรรยายอะโทมี่ วิชั่นของท่านประธานปาร์ค ฮันกิลน ท่านได้แสดงความยินดีกับสมาชิกที่ได้ขึ้นตำแหน่ง โดยกล่าวว่า "ไม่มี
ธุรกิจไหนที่สามารถเริ่มทำธุรกิจได้ทั้งๆ ที่ไม่มีประสบการณ์ เงินทุน หรือทักษะแบบธุรกิจอะโทมี่อีกแล้ว” อะโทมี่นั้นมีระบบเตรียมให้พร้อมแล้ว
ถ้าหากคุณไม่สำเร็จกับอะโทมี่ ก็แปลว่า คุณไม่ได้ทำธุรกิจเต็มที่พอที่จะสำเร็จ ท่านได้กล่าวอีกว่า "เหตุผลที่ไม่สำเร็จในอะโทมี่นั้น ลองถามตัวเอง
ว่าเป็นเพราะเราไม่ได้ตั้งใจทำงานเท่ากับตอนเป็นพนักงานที่ทำงานวันละ 8 ชั่วโมงขึ้นไปรึเปล่า?" และยังกล่าวอีกว่า "การตั้งเป้าหมายและ
การเขียนไลฟ์ซินาริโอ้อย่างสม่ำสเมอนั้น จะเป็นการทิ้งรูปแบบความล้มเหลวที่มีและเป็นเคล็ดลับและทางลัดสู่ความสำเร็จ" โดยท่านได้กล่าวย้ำ
เป็นพิเศษว่า “มันไม่ใช่การเขียนเป้าหมายที่ดีพอ แต่จำเป็นจะต้องเขียนสุดยอดของเป้าหมายที่ทำให้เราใจเต้นและสามารถเดิมพันกับชีวิตได้”
และสุดท้าย ท่านก็ได้แสดงความยินดีกับการเปิดสาขาอะโทมี่ มองโกเลียในวันที่ 22 กันยายน พร้อมให้ขวัญกำลังใจกับสมาชิกว่า “อะโทมี่นั้น
กำลังผลักดันธุรกิจในบราซิล ยุโรป และที่อื่นๆ อยู่ ต่อไปโอกาสและความเป็นไปได้ในอะโทมี่จะไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ
ขอให้คิดว่า อะโทมี่จะเป็นความหวังของยุคนี้และลองท้าทายไปกับมัน”